วิธีเลือก แบตสำรอง Power Bank ของง่ายๆ ที่ดูยากๆ

ขออนุญาตเขียนบทความแบบกระชับ สั้นๆ ตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย แบบอินดี้นะครับ
(แต่มันก็ยาวอยู่ีดี เพราะลายละเอียดมันเยอะ 55+)

Power Bank ทุกวันนี้ มีขายเกลื่อน แต่เสปกหมดเม็ดมาก .. แล้วควรดูยังไง..

สิ่งแรก ชนิดของ แบตเตอรี่ภายใน..
ที่ใช้กันอยู่ มี 3 ชนิด (แต่มักไม่บอกกัน)

- Li-MH นิเกิลเมทัลไฮไดรต์
เป็นแบบที่ต้นทุนถูกที่สุด .. ด้อยที่สุด .. มี memory effect (ทุกครั้งที่ชาร์ต ความจุจะน้อยลง)
คายประจุเร็ว แม้ไม่ได้ไช้.. ได้ความจุที่สูง แต่ราคา ถูกมาก ..ในประสิทธิภาพที่ต่ำ
ถ้าท่านเจอ Power Bank ที่ไม่ได้บอกว่า เป็น แบตชนิดไหน ..
สัณนิฐานไว้ก่อนเลย ..ว่าเป็นประเภทนี้ ...อย่าหลงไหลกับ พวกความจุสูง ราคาถูก ไม่บอกว่าแบตอ่ะไร

- Li-ion ลิเธียมไอออน
ไม่มี memory effect
เป็นแบบที่ใช้เป็น แบตมือถือนั่นแหละ .. เพราะมัน เหมาะสมที่สุด
แต่..ช้าก่อน .. มันไม่เหมาะ เอามาเป็น Power Bank
ข้อดีของลิเธียมไอออน
+ความหนาแน่นพลังงานสูง
+ไม่จำเป็นต้องกระตุ้นก่อนใช้ หลังจากเก็บเป็นเวลานาน
+อัตราการคายประจุตัวเองต่ำ
+ไม่ต้องดูแลรักษามาก
ขีดจำกัดของลิเธียมไอออน
+จำต้องใช้วงจรป้องกันแรงดันและกระแสให้อยู่ในเขตปลอดภัย
+มีการเสื่อมอายุตามเวลาแม้ว่าจะไม่มีการใช้งาน
+อัตราการจ่ายกระแสไม่สูงมาก ไม่เหมาะกับงานที่ใช้โหลดหนักๆ
เนื่องจาก พวกมือถือนั้นออกแบบให้ใช้พลังงานน้อย...
จึงเหมาะที่จะใช้ Li-ion เพราะข้อจำกัดของมันในข้อสุดท้ายนี่เอง
แต่จะเป็นอย่างไร ถ้าเอามาทำ Power Bank ??
คำตอบคือ มันจะชาร์ตมือถือ หรือแทปเล็คได้ช้ามากๆ
คุณคงไม่ชอบ..ถ้าการชาร์ตแบตสำรองแบบฉุกเฉินแล้วต้องรอนานใช้ไหม ?
เพราะมันจ่ายกระแสได้น้อย
.. พวกความจุสูงสุดติ่ง...ประมาณว่า ให้ชาร์ต แท็บเล็ตได้
แต่จ่ายกระแสได้แค่ 1 A (1000mA) So what !! เพื่ออะไร = =’
ยังมีแบบหมดเม็ดได้อีก เช่น จ่ายได้ 2 ช่อง ระบุว่า ช่องละ 1A
แต่ไม่บอกหรอกนะ ..ว่าถ้ามันจ่ายพร้อมกัน ..มันจะได้ รวมกันได้ 1A ไม่ได้แยกกัน = =’
อีกทั้ง Li-ion ที่ชอบเอามาทำ power bank กันนั้น ข้างใน
จะเป็นพวก แบต ขนาต 18650 (ทรงกระบอกแบบเดียวกับที่อยู่ในแบตโน๊คบุ๊ค)
เพราะหาง่าย ไม่ต้องผลิตไหม่ ทำให้เทอะทะ และรูปทรง อวกาศ
ผมว่าพวกท่านเคยเห็น แบบเป็น ก้อนๆ แท๊งค์ๆ อ่ะ = =’
แต่ก็มี power bank บางยี่ห้อ (นิยมซะด้วย) ที่เป็น Li-ion แบบก้อนเหลี่ยมผลิตไหม่
และเสปก ก็จ่ายกระแสได้สูง 2 A ในบางรุ่น ซึ่งมันก็จ่ายได้จริงนั่นแหละ
แต่มันก็เป็น Li-ion อยู่ดี
เพราะ เกิดจากการนำ Li-ion หลายๆ เซลล์ มาต่อขนานกัน .. ปัญหาคืออะไร ?
ปัญหาคือ การทำแบบนั้น ..ได้ กระแสที่จ่ายได้เพิ่มขึ้นมาก็จริง
แต่ .. Li-ion แต่ละเซลล์ มันจะเสิ่อมไม่เท่ากัน เพราะมันคนละเซลล์
(ขออณุญาตไม่กล่าวลึกเชิงเทคนิค เดี๋ยวจะเลิกอ่านกันไปซะก่อน)
ความจุที่เหลือ ...มันจะเท่ากับ เซลล์ ที่เสื่อมมากสุด แม้เซลล์อื่นๆ ยังไม่เสื่อม !
มันจะมีปัญหามาก เมื่อ เราใช้หมด 100%
เค้าจึงมันจะแนะนำเราว่า ...อย่าใช้หมด 100% ให่ชาร์ตบ่อยๆ
พอเหลือ 20% ให้เลิก ใช้ ให้นำไปชาร์ต ...
แปลว่าเรา ซื้อ แบตมา 100 เราควรใช้มันแค่ 80 .... So what !! เพื่ออะไร = =’

- Li-po ลิเธียมโพลีเมอร์
จริงๆ มันคือแบต Li-ion ชนิดหนึง ที่ ถูกต่อยอด...
ต่างจากลิเธียมไอออนธรรมดาตรงที่ชนิดของสารอิเลกโตรไลท์ ลิเธียมโพลีเมอร์ ใช้ฟิล์มคล้ายพลาสติกร่วมกับอิเลกโตรไลท์ชนิดเจล แทนที่จะใช้แผ่นเมมเบรนที่มีรูพรุน เป็นตัวส่งผ่านไอออน ลิเธียมโพลีเมอร์ง่ายต่อการผลิต มีความแข็งแรง ปลอดภัย และบาง สามารถทำให้บางได้ถึง 1 มิลลิเมตร สามารถผลิตให้เป็นรูปทรงต่างๆ ได้ตามความต้องการของการใช้งาน

ข้อดี(ที่เพิ่มขึ้นมาจาก Li-ion) ของลิเธียมโพลีเมอร์

- สามารถทำให้บางมากๆ ได้ เช่น แบตเตอรี่ขนาดบางเท่าบัตรเครดิต
- ไม่จำกัดรูปแบบ ผู้ผลิตไม่จำต้องจำกัดอยู่แค่ขนาดเซลมาตรฐาน ขนาดที่ต้องการสามารถสั่งผลิตได้
- น้ำหนักเบาที่สุดในทุกแบบ ใช้เพียงห่อแล้วซีลแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้ตัวถังโลหะ
- ปลอดภัย รับการชาร์จไฟเกินได้มากกว่า และ โอกาสของการรั่วของอิเลกโตรไลท์ลดลง
- จ่ายกระแสได้สูงมาก สูงกว่าทุกแบบ (ในวงการ RC จึงนิยมมาก)

ขีดจำกัดของลิเธียมโพลีเมอร์
- ความหนาแน่นพลังงานต่ำกว่า และจำนวนรอบการใช้งานที่ต่ำกว่าลิเธียมไอออนธรรมดา
(รอบการใช้งานของ ลิเธียมโพลีเมอร์ ตือประมาณ 500 ครั้ง
1 ครั้งในที่นี้หมายถึง หมด100% ชาร์เต็ม100% = 1 ครั้ง
หมด 50% ขาร์ตเต็ม 100% = 0.5 ครั้ง)
- ราคาแพงกว่า ทุกแบบ
- อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อพลังงานที่เก็บได้ มีค่าสูงกว่าลิเธียมไอออน

มันเป็นแบบที่เหมาะกับ Power Bank มากที่สุด !
ในความจุเท่ากัน มันเบากว่า ..คงไม่มีใครอบากพกของหนัก
มันจ่ายกระแสได้สูงกว่า ชาร์ตมือถือ แท็บเล็ตได้เร็วกว่า..
แม้ว่าีรอบการใ้ช้งานมันจะต่ำกว่า Li-ion แต่มันไม่ต้องขนานหลายเซลล์
มันจึงเสื่อมช้ากว่า ใช้ได้หมด 100% ไม่มีปัญหา

ในการใช้งาน ที่กระแสเท่ากัน .. Li-po จะไม่ร้อน
(เทียบที่กระแสสูงสุดที่ Li-ion จ่ายได้)

แต่กับ Li-ion นั้นมันจะร้อน.นั้นเป็นสาเหตุของแบตเสื่อม!
ที่เป็นสาเหตุว่าทำไมเวลาคุยโทรศัพท์มือถือนานๆแล้วมันร้อน..
เพราะตอนโทร ใช้กระแสสูงกว่าปกติ และมันป็น Li-ion นั้นเอง

จึงขอฟังธงว่า Li-po ประสิทธิภาพดีที่สุดถ้าจะนำมาทำ Power Bank

เรื่องต่อมา...การชาร์ตไฟเข้า Power Bank

การชาร์ตไฟเข้า นั้น.. แม้ว่า แบต Li-po นั้นสามารถชาร์ตด้วยกระแสสูงได้
ส่วน Li-ion นั้นต้อควบคุมกระแสชาร์ต อยุ่แล้ว เพราะระเบิดง่าย..

แต่การชาร์ต อย่างเร็ว ด้วยกระแสสูง .ไม่ว่าแบตชนิดไหน..
มันจะร้อน !! มันคือสาเตุหลัก ที่ทำให้ แบตเสื่อม.

Power ฺBank ที่ดี ต้องมีวงจรจำกัดกะแส ในการชาร์ต..
เพื่อรักษา และยืดอายุ แบตให้ ไม่เสื่อมเร็ว อยู่ได้ นานๆ

Power Bank บางยี่ห้อแม้จะเขียนสเปกบอก แต่มันไม่มีวงจรนั้น
ถ้าชาร์ตด้วยที่ชาร์ต 1A มันก็ชาร์ตเต็มๆ 1A
ถ้าชาร์ตด้วยที่ชาร์ต 2A มันก็ชาร์ตเต็มๆ 2A !!
มันเร็ว แต่มันร้อน และอยู่กับคุณไม่นาน..

นอกจากวงจรจำกัดกระแส..ชาร์ตเข้า แล้ว

แม้ว่ามือถือทั่วไปสมัยนี้จะมีวงจรจำกัดกระแสชาร์ตของมันเองอยู่.
ประมาณ 500-800mA - 1A ในบางรุ่น
ส่วนแทปเล็ต ก็ 1.5-2.1 A

แต่ Power Bank ที่ดีต้องมีวงจรควบคุมด้วย..
สำหรับพวกที่ใช้ Li-po ต้องมีแน่ๆ ไม่งั้นมันจ่ายระเบิดระเบ้อ

แต่พวกที่ใช้ Li-MH , Li-ion รุ่นที่ลดต้นทุน
มันปล่อยให้หน้าที่นี้เป้นของแบตไปเลย เพราะมันจ่ายได้ไม่มากอยู่แล้ว.
ซึ่งมันไม่ควร .. แบตจะร้อนมาก เพราะใช้กระแสสูงสุดที่มันทำได้ ต่อเนื่อง

นอกนั้นก็เป้นรูปลักษณ์ภายนอก..ออฟชั่นต่างๆ แล้วแต่จะจินตนาการ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สอบถามเพิ่มเติม