Hotspotที่ "ดี" กับที่ "แรง" มันต่างกัน !

Hotspot ที่ "ดี" กับที่ "แรง" มันต่างกัน !


ที่จั่วหัวอย่างนี้ เพราะผมเห็นว่า ..
ทุกวันนี้ หลายท่าน นิยมกันเหลือเกิน กับ AP(Access Point)ที่มีกำลังส่งแรงๆ
ไม้ได้บอกว่ามันไม่ดีนะครับ โปรดอ่านจนจบ..

ผมกล่าวถึงระบบเครื่อข่ายที่เรียกว่า "Hotspot" 
ซึ่งเป็นเครื่อข่ายแบบ Point to multi Point
เป็นจุด(หรือหลายจุดรวมกัน)ที่ติดต่อกับผู้ใช้ โดยตรง

การที่ AP จะติดต่อกับ Client ดูภาพประกอบครับ















ท้ัง 2 ฝ่ายจะคุยกันรู้เรื่อง ต้องได้ยินอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
แต่ถ้าคุณเลือก AP กำลังส่งแรงๆ มาใช้กับ HotSpot
เนื่องจาก ผู้ใช้ หรือ Client นั้นไม่ว่าจะเป็น Notebook
Tablet แม้กระทั้ง Smartphone ต่างๆนานา
ล้วนมีกำลังส่งไม่เกิน 200mW แทบทั้งสิ้น (โดยมากแค่100mW)

แต่เจ้า AP ตัวแรงที่ขายๆกัน(และนิยมซื้อ)
มีตั้งแต่ 1000mW(1W)ไปจนถึง 8000mW(8W)เลยทีเดียว!

เมือเจ้า Client ที่อยู่ไกลออกไปเปิดหาสัญญาณ Wifi
เจอสัญญาณมาเต็มเพราะมันแรง
แต่ส่งกลับมา ถึงบ้างไม่ถึงบ้าง ไม่เสถียร Error ในระบบเพียบ
และสัญญาณอันแรงมากๆนั้นยังไปก่อกวนระบบอื่นๆ
โดยเปล่าประโยชน์ ผมเรียกมันว่า..สัญญาณขยะ!
จะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร ?

ปัญหายังไม่จบแค่นั้น..
ในระบบ Hotspot นั้น เช่นระบบ Hotspot ในหอพัก โรงแรม
ไม่ได้มีแค่ AP ตัวเดียว ถูกไหม ?

ถ้าในระบบ Hotspot นั้นเลือกใช้ AP ตัวแรง
ปัญหาที่จะเกิดตามมา ดังนี้้

1.เกิดสัญญาณขยะ ในระบบมาก เช่น สัญญาณ AP ชั้น1 ฟุ้งไปถึงชั้น4 มันทำให้ Error ในระบบมาก สัญญาณไม่เสถียร การตั้งช่องสัญญาณ(ไม่ให้กวนกันแบบเว้น3ช่อง)ทำยากมาก ยิ่ง ใน 1 ชั้นนั้นมี AP มากกว่า 1 ตัว สัญญาณยุ่งเหยิงไปหมด

2.ระบบ Hotspot ที่ดี ไม่ว่าจะมี AP กี่ตั้วควรจะมีแค่ 1 SSID (แบบ@Truewifi นั่นแหละ) เท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ ในระบบ AP ตัวแรง เพราะการ ฟุ้ง (Overlap) กันของ AP ตัวแรง ทำให้ Client งงเพราะมันแรงไปหมด ไม่เกาะ AP ตัวที่ควรเกาะ มันก็ไม่เสถียร เราจึงเห็น Hotspot หลายที่ต้องตั้ง SSID เป็นชั้นๆ เช่น XXAP_Floor1,XXAP_Floor2 .....
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และนั่นก็ไม่แก้ปัญหา Error และการกวนกันในระบบ!

3.ที่นี่เมืองไทย ร้อนมากกก AP ตัวแรง มันร้อน!
และมันแฮงค์ ค้างง่ายมาก การลง FW แล้วตั้ง Restart นั้นช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง แต่มันไม่มีประโยชน์ ถ้ามันค้างก่อนเวลาที่ตั้ง Restart และที่สำคัญ อายุการใช้งานมันสั้น และฝันไปเหอะ กับประกัน LT กับ AP ตัวแรง ไม่มีแน่นอน อย่างมาก 1-2 ปีเท่านั้น

ที่ผมกล่าวมานั้นหลายคนคงเถียงในใจ..กุใช้แล้วดี
ถ้ามันไม่ดี เค้าจะทำมาทำไม? ฟร่ะ

อย่างที่ผมบอกตอนต้น ผมกล่าวถึงระบบ Hotspot
ซึ่งเป็นแบบ Point to multi Point 
ซึ่ง ผู้ใช้เป็นแบบ สามัญธรรมดา นะครับ

AP ตัวแรง นั้้นเหมาะกับระบบแบบ ..
Point to Point โดยเฉพาะเจาะจง
ถ้าคุณแหกปากตะโกนไปไกลๆ
คนอีกฝั่ง ก็ต้องตะโกนดังๆกลับมา ถึงจะคุยกันรู้เรื่อง จริงไหม?

แม้ที่จริงแล้ว AP ตัวแรงนั้น
เอามาใช้ในระบบ Point to multi Point ก็ได้
ที่่ไม่ใช่ระบบ Hotspot นั้น โดยคุณปลายทาง ตัวแรงหลายตัว
มารับสัญญาณต่อจาก Ap ตัวแรง ที่ใช้เสารอบทิศทาง
แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำนะครับ เพราะสัญญาณขยะ ที่คนอื่นไม่ต้องการ จะฟุ้ง ไปทั่ว ไม่ได้ บีบเป็นบีม แคบๆ
จำไว้เลย ใครทำ ..เห็นแก่ตัว! (และผิดกฏหมาย)

AP ในระบบ Hotspot ที่ดีควรเป็นอย่างไร?
- กำลังส่งไม่เกิน 200mW
- ใช้เสาที่มี DB สูง (ไม่เกิน 7-9 DB)เพื่อลดปัญหาหูตึง
จำไว้ว่าเสา DB สูง(แบบรอบทิศทาง)ไม่ได้ช่วยเพิ่มกำลังส่งมากนัก แต่ช่วยให้รับสัญญาณที่ส่งมาได้ดีขึ้น
- มีประกันที่ยาวนาน Lifetime ยิ่งดี เพื่อลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเคยบอกไว้ว่า
Network เป็นเรื่องลึกซึ๊ง ซับซ้อน ถ้าไม่ตั้งใจเรียน ไม่มีพื้นฐาน ไม่เข้าใจถ่องแท้....

Network จะกลายเป็น Notwork ทันที !!

...ผมไม่มีวันลืม 

....ขอบคุณครับ...อินดรี๊ ..19/2/13 1:01 AM

8 ความคิดเห็น:

  1. ชอบครับ อ่านเข้าใจง่ายดีมากเลย ^^

    ตอบลบ
  2. สอนได้ดีครับผมชอบ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ9/7/57 11:02

    ddd

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ9/7/57 11:05

    ที่หอพักภายในห้องพักจับสัญญาณได้อ่อนแล้ว กำลังส่งไม่เกิน 200mW จะพอไหมครับ

    ตอบลบ
  5. แก้หน่อยครับ ตรง อาจารย์ที่หมาลัย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แก้แล้วนะครับ
      ขอบคุณมากครับ

      ลบ
  6. ดีครับ ขอบคุณมากๆ ได้ความรู้เพิ่ม

    ตอบลบ
  7. ดีครับ ขอบคุณมากๆ ได้ความรู้เพิ่ม

    ตอบลบ

สอบถามเพิ่มเติม